ประวัติผู้จัดการทีม อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้สร้างตำนานแชมป์ไร้พ่าย ของวงการฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ

ประวัติผู้จัดการทีม อาร์แซน เวนเกอร์ สุดยอดกุนซือสมองเพชร ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของสโมสรปืนใหญ่ อาร์เซน่อล 

ประวัติผู้จัดการทีม บทความกีฬาที่น่าสนใจ ผู้ที่สร้างประวัติศาสตร์ให้กับวงการฟุตบอล พรีเมียร์ลีกอังกฤษ และเป็นผู้ที่ได้รับการยกย่องจากยอดบรมกุนซืออย่าง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ว่าเป็นหนึ่งในกุนซือที่ดีที่สุดของพรีเมียร์ลีก อีกทั้งยอดกุนซือแห่งเยอรม เจอร์เก้น คล็อปป์ ยังกล่าวสดุดีว่าเป็นต้นแบบให้กับผู้จัดการทีมรุ่นหลัง และอยากเจริญรอยตาม

รวมไปถึง จอร์จ เวอาห์ ประธานาธิบดีประเทศไลบีเรีย อดีตนักฟุตบอลบัลลงดอร์ ที่เจ้าตัวให้การย่อย่องว่าเป็นเหมือนบิดาของเขาอีกคน จอร์จถูกปลุกปั้นอบรมบ่มนิสัยจนประสบความสำเร็จในวงการลูกหนัง

เขาคือ อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้ที่เปรียบสเมือนเป็นบิดาแห่งวงการลูกหนัง ผู้สร้างนักฟุตบอลให้ก้าวขึ้นสู่ระดับเวิร์ลคลาส ผู้ที่อยู่เบื้องหลังการทำทีมฟุตบอลสมัยใหม่ เล่นบอลด้วยความสวยงาม ทำเกมส์บุกได้อย่างเร้าใจ สร้างตำนานประวัติศาสตร์ให้กับสโมสรอาร์น่อล อย่างที่ไม่มีทีมใดในพรีเมียร์ลีกทำได้มากก่อน

ประวัติผู้จัดการทีม อาร์แซน เวนเกอร์

อาร์แซน เวนเกอร์ เกิดวันที่ 22 ตุลาคม 1949 ประเทศฝรั่งเศส บิดาของเขาเป็นโค้ชทีมฟุตบอลระดับภูมิภาคของเมืองดัตเลนไฮม์ ทำให้อาร์แซนได้เล่นฟุตบอลตั้งแต่วัยเพียง 5 ขวบ และเริ่มต้นอาชีพนักฟุตบอลด้วยวัย 15 ปี

โดยได้เข้าไปอยู่ในทีมชุดใหญ่ของสโมสรดัตเลนไฮม์ ซึ่งในเวลานั้นทีมไม่มีโค้ช แต่เวนเกอร์ก็ช่วยควบคุมการฝึกซ้อม ซึ่งเจ้าตัวคอยให้คำชี้แนะเพื่อน ๆ ในทีม ด้วยความเป็นผู้นำ ถึงแม้ว่าจะไม่เป็นกัปตันทีม

ในปี 1969 เวนเกอร์ได้รับการคัดเลือกให้ไปเล่นในลีกดิวิชั่น 3 ของสโมสรมุตซิก ด้วยวัยอายุ 20 ปี โดยได้ดับการดูแลจากผู้จัดการทีมอย่าง แม็กซ์ ฮิลด์ แต่มันก็สายเกินไปสำหรับการที่เวนเกอร์จะเป็นนักฟุตบอลที่มีชื่อเสียงได้

ทำให้เวนเกอร์ได้เริ่มสนใจเรียนรู้กลยุทธการบริหารทีมฟุตบอล โดยได้ติดตามฮิลด์ ไปชมเกมส์แข่งขันฟุตบอลที่ ประเทศเยอรมันนี อยู่บ่อยครั้ง ในปี 1978 ฮิลด์ได้ย้ายไปคุมทีมสตราสบูร์ก และเขาก็ได้ดึงเวนเกอร์ไปเล่นในตำแหน่งกลองกลางด้วยวัย 28 ปี

จากนั้นเวนเกอร์ก็ถูกจับไปเล่นกองหลัง และทำได้เพียงเป็นตำสำรองเท่านั้น ต่อมาเจ้าตัวได้ย้ายไปร่วมทีมสโมสร อาแอ็ส มอนาโก ทีมลีกดิวิชั่น 1 ของฝรั่งเศส และได้ร่วมคว้าแชมป์ลีกเอิงได้เป็นสมัยแรกในชีวิต และหลังจานั้นเวนเกอร์ก็อำลาอาชีนักฟุตบอลด้วยวัย 32 ปี

ก้าวแรกของการเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอล

ในปี 1983 เวนเกอร์ได้รับงานตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการทีม อาแอส คานส์ ลีกดิวิชั่น 2 ของฝรั่งเศส ซึ่งต่อมาเจ้าตัวได้เป็นผู้จัดการทีมสโมสร น็องซี่ ในปี 1984 ซึ่งเป็นสโมสรแรกในฐานะผู้จัดการทีม แต่เวนเกอร์ก็ไม่สามารถช่วยเหลือทีมได้ทำให้ทีมตกชั้น จนให้ให้เจ้าตัวถูกไล่ออกในปี 1987

ต่อมาได้เข้ารับตำแหน่งผู้จัดการทีมสโมสรอาแอ็ส มอนาโก ในช่วงปี 1987 ถึง 1994 สามารถพาทีมคว้าแชมปืเลิกเอิง และคว้าถ้วยแชมป์ เฟร้นช์ คัพ มาครองได้สำเร็จ จากการเซ็นสัญาคว้านักเตะ จอร์จ เวอาห์ เจอร์เก้น คลิ้น มันน์ เกล็น ฮอดเดิ้ล และยูริ จอร์เกฟ

จากนั้นเวนเกอร์ได้เริ่มต้นรับงานใหม่กับสโมสรนาโกย่า แกรมปัส ประเทศญี่ปุ่น ในปี 1995 เวนเกอร์รักวิถีการใช้ชีวิตของญี่ปุ่นมาก ในปี 1997 เจ้าตัวได้เขียนหนังสือ พระวิญาญาณแห่งชัยชนะ เพื่อเป็นเกียรติประวัติแก่วงการฟุตบอลญี่ปุ่น โดยได้แบ่งปันทัศนคติแนวคิดปรัชญาการบริหารทีมจากประสบการณืของเจ้าตัว

ในปี 1996 เดวิด ดีน รองประธานสโมสรฟุตบอล อาร์เซน่อล จาก ประเทศอังกฤษ ได้แต่งตั้งงเวนเกอร์เข้ามารับตำแหน่งหน้าที่ผู้จัดการทีมของสโมสร ท่ามกลางความไม่พอใจของบรรดาผู้ถือหุ้นในเวลานั้น ซึ่งต้องให้ให้อดีตนักฟุตบอลในตำนานนักเตะเทวดาของทีมชาติเยอรมัน โยฮัน ครัฟฟ์ เข้ามารับงานคุมทีม

ซึ่งก่อนที่เวนเกอร์จะเข้ามาคุมทีมอย่างเป็นทางการในอีก 1 เดือนข้างหน้า เจ้าตัวได้แจ้งกับสโมสรให้จัดการคว้าตัวเซ็นสัญญากับ ปาทริก วิเอร่า และเรมี่ การ์ด ซึ่งการมาคุมทีมของเวนเกอร์ได้พลิกโฉมหน้าฟุตบอลแห่งเมืองผู้ดี โดยได้เขามารื้อความไร้วินัยของนักฟุตบอลสไตล์อังกฤษ

ทั้งการเข้าผับ การดื่ม แอลกอฮอล์ เจ้าตัวได้สร้างวัฒนธรรมโภชนาการอาหารการกิน เพื่อให้สอดคล้องกับการเป็นนักกีฬามืออาชีพ ทำให้ส่งผลไปถึงทีมชาติอังกฤษ ที่ได้นำแนวทางของเวนเกอร์ไปใช้อีกด้วย และเป็นผู้ริเริ่มนำนักเตะจากต่างชาติเข้ามาเล่นในพรีเมียร์ลีก เพื่อยกระดับในการแข่งแข่งให้เข้มข้นกว่าที่เคยเป็นมา

อาร์แซน เวนเกอร์ พาทัพปืนใหญ่ อาร์เซน่อล คว้าดับแชมป์

จากนั้นเวนเกอร์ได้ลงคุมทีมนัดแรกในการเจอกับทีม แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส และเอาชนะไปด้วยสกอร์ 2 – 0 เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม ปี 1996 ต่อมาในฤดูกาล 1997 – 1998 เวนเกอร์สามารถพาทีมอาร์เซนอลคว้าดับเบิ้ลแชมป์ได้เป็น ครั้งที่ 2 ในประวัติศาสตร์ของสโมสร ด้วยการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก และแชมป์ เอฟเอคัพ 

จากนักเตะผู้เล่นตัวหลักอย่าง โทนี่ อดัมส์ ,มาร์ติน คีโอน ,ปาทริก วิเอร่า ,มาร์ก โอเวอร์มาร์ส และแด็นนิส แบร์คกัมป์ จากนั้นในปี 2001 เวนเกอร์จัดการเซ็นสัญญาค้วาตัวนักเตะอย่าง โซล แคมป์เบลล์ ,เฟร็ดดิก ลุงเบิร์ก ,โรแบร์ ปิแรส และ เธียร์รี่ อองรี ซึ่งให้เวนเกอร์สามารถพาทีมคว้าดับเบิ้ลแชมป์ได้อีกสมัย ในฤดูกาล 2001 – 2002

ซึ่งถือเป็นความภาคภูมิใจที่สุดของนักเตะ และเหล่าบรรดาทีมงานสต๊าฟโค้ช รวมไปถึงแฟนบอล เดอะกันเนอส์ ที่ได้ฉลองแชมป์พรีเมียร์ลีกในบ้านของปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คู่แข่งของทีมในเวลานั้น

ต่อมาในฤดูกาล 2003 – 2004 เวนเกอร์ได้พาทีมอาร์เซน่อลสร้างประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ด้วยการเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกที่ไม่แพ้ทีมใดเลยในการแข่งของฤดูกาล หรือเรียกว่า แชมป์ไร้พ่ายอีกทั้งยังคว้าแชมป์เอฟเอคัพ ได้เป็นอีกสมัย ทำให้ปิดฉากฤดูกาลด้วยการคว้าดับเบิ้ลแชมป์ไปครอง

เวนเกอร์นั้นปรียบได้ว่าเป็นยอดกุนซือสมองเพชร เพราะนอกจากการบริหารทีมแล้ว เจ้าตัวยังเป็นนักเจียระไนมือทอง ด้วยการปลุกปั้นบรรดาแข้งดาวรุ่ง จนก้าวขึ้นมาสู่ระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น ปาทริก วิเอร่า ที่เคยหมดอนาคตกับสโมสรปีศาจแดงดำ เอซี มิมาน ก็กลับแจ้งเกิดได้อย่างเต็มตัว

นักเตะโนเนมที่ไม่มีใครรู้จักอย่าง นีกอลา อาแนลกา ก็กลายมาเป็นยอดดาวยิ่งถล่มประตู รวมไปถึง เธียร์รี่ อองรี ที่เป็นผู้เล่นแนวรุกปีซ้ายจอมพริ้ว กลายมาเป็นสุดยอดกองหน้าในตำนานของสโมสร

ด้วยความรักความภักดีที่มีต่อสโมสรและแฟนบอล เวอนเกอร์เคยปฏิเสธการคุมทีมสโมสร บาเยิร์น มิวนิค ในลีกเยอรมัน รวมไปถึงสโมสรเจ้าบุญทุ่ม บาร์เซโลน่า และสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลแห่งวงกาลฟุตบอลอย่างราชันชุดขาว เรอัล มาดริด

เวนเกอร์ได้พัฒนาสโมสรด้วยการสร้างสนามฟุตบอล เอมิเรตส์ สเตเดียม แทนที่สนามเก่าอย่าง ไฮบิวรี่ เพราะต้องการสร้างรายได้เข้ามาให้กับสโมสร แต่สโมสรต้องกู้เงินมาลงทุนสร้างสนาม ทำให้เวนเกอร์ไม่มีงบประมาณในการซื้อนักเตะระดับโลกเข้ามาเสริมแกร่ง

อีกทั้งจำเป็นต้องขายนักเตะคนสำคัญอย่าง โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ,เชสฟาเบรกาส และอีกหลาย ๆ คน เพื่อนำรายได้มาช่วยสโมสร แต่เวนเกอร์ก็ยังสามารถพาทีมเข้าไปแข่งขันในรายการ ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีก ติดต่อกันอยู่นานหลายปี

ไม่ว่าสโมสรจะเจอปัญหามากมายแค่ไหน แต่เวนเกอร์ก็สามารถช่วยให้สโมสรปลดหนี้ได้สำเร็จ จากแนวทางการบริหารงานของเวนเกอร์ และนี่คือสุดยอดตำนานผู้จัดการทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลด้วยระยะเวลา 22 ปี ของสโมสรอาร์เซน่อล ด้วยผลงานคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 3 สมัย เอฟเอคัพ 7 สมัย กับผู้ชายที่ชื่อว่า อาร์แซน เวนเกอร์